ลิเวอร์พูล แชมป์ พรีเมียร์ลีก 99% หลังบด เวสต์แฮม 2-1, สาลิกาปราบผี 4-1
ลิเวอร์พูล แชมป์ พรีเมียร์ลีก 99% – ผลบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อ 13 เม.ย. ลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ชัยชนะได้อีกครั้ง ด้วยการเชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ที่ทำให้ทะยานหนี อาร์เซน่อล ไปเป็น 13 แต้ม ขณะเหลือ 6 นัดสุดท้าย เท่านั้น
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ ลิเวอร์พูล มีหน้าที่ต้องชนะเท่านั้น หลังจากตัวเองออกไปแพ้ ฟูแล่ม 2-3 เมื่อสัปดาห์ก่อน และ อาร์เซน่อล เปิดทางสะดวกให้แล้วจากผลเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 ในวันเสาร์
อาร์เน่อ ซล็อต กุนซือหงส์แดง ปรับหลังบ้านเมื่อได้ อลิสซอน เบ็คเกอร์ คืนหว่างเสา พร้อมแบ็กสองข้างอย่าง คอสตาส ซิมิคาส และ คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ ส่วนอื่นคงเดิมที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิมา โกนาเต้, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดีโอโก้ โชต้า
ส่วนทีมเยือนแทบไม่ปรับอะไร นำมาโดย จาร์ร็อด โบเว่น, โมฮาเหม็ด คูดุส, ลูคัส ปาเกต้า และ คาร์ลอส โซเลร์
เริ่มมา ลิเวอร์พูล มาได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 18 ซาลาห์ ใช้ความเร็วกระชากขึ้นหน้าแล้วผ่านเรียดเข้ากลาง ดีโอโก้ โชต้า ปล่อยผ่านไปถึง หลุยส์ ดิอาซ ยิงจ่อๆ ที่เสาไกลเข้าไป
ทีมเยือนเกือบตีเสมอในนาที 21 โมฮัมเหม็ด คูดุส พยายามตักบอลข้าม อลิสซอน แต่จอมหนึบแซมบ้ายังถอยหลังไปทัน บินปัดบอลพ้นคานไปได้
ท้ายครึ่งแรก อลิสซอน ยังปฏิเสธประตูตีเสมอได้อีก จาร์ร็อด โบเว่น เปิดบอลให้ คูดุส วอลเลย์ทันทีไม่ต้องจับ แต่ยังไม่ผ่านเซฟ
ล่วงมาท้ายเกม เวสต์แฮม ตามตีเสมอ 1-1 นาที 86 อารอน วาน-บิสซาก้า ครอสบอลไปหน้าประตู เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ สกัดบอลไปติดขา แอนดี้ โรเบิร์ตสัน กระดอนเข้าประตูตัวเอง
แต่กระนั้น ลิเวอร์พูล ก็กลับขึ้นนำอีกหน 2-1 ในนาที 89 อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เปิดลูกเตะมุมให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โหม่งเต็มศีรษะเข้าไป ช่วยให้จบเกมที่สกอร์ 2-1
ชัยชนะส่งให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นแท่นเตรียมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2024/25 เต็มแก่ จากการนำหน้า อาร์เซน่อล ไกลถึง 13 คะแนน
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ต้องการแค่ชนะ 2 จาก 6 นัดสุดท้ายเท่านั้น เพื่อการันตีการคว้าแชมป์ซีซั่นนี้ เท่ากับการตัดสินแชมป์อาจเกิดขึ้นแบบยังไม่ทันถึงเดือน พ.ค. ก็เป็นได้
นิวคาสเซิ่ล ขยี้ แมนยู ยับ 4-1, เชลซี แค่เจ๊า อิปสวิช 2-2
ผลบอล พรีเมียร์ลีก อีกคู่ใหญ่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-1 จนตอนนี้ที่ผ่านไป 32 นัด แมนยู ทำสถิติเลวร้ายที่สุด สำหรับการเล่น พรีเมียร์ลีก ยาวนานกว่า 30 ปี เรียบร้อยแล้ว
ในการไปเยือน เซนต์ เจมส์ พาร์ค นัดนี้ รูเบน อโมริม ปรับทัพครั้งใหญ่ ตั้งแต่นายประตูที่ส่ง อัลตาย บายินดีร์ ลงตัวจริง พร้อม แฮร์รี่ อามาสส์, วิกเตอร์ ลินเดเลิฟ, คริสเตียน เอริคเซ่น, บรูโน่ แฟร์นันเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ โยชัว เซิร์คซี
แต่การปรับทีมไม่ได้ให้ผลดีแม้แต่น้อย เกมเป็น นิวคาสเซิ่ล ลุยเข้าใส่และเจาะประตูได้อย่างสะดวก เริ่มจากนาทีที่ 24 นิวคาสเซิ่ล ออกนำ 1-0 อเล็กซานเดอร์ อิซัค จับหน้าเขตโทษแล้วตวัดต่อเข้าด้านขวาให้ ซานโดร โตนาลี่ เติมมาซัดตุงตาข่ายง่ายๆ
นาที 37 แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอ 1-1 จากจังหวะสวนกลับ ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ลากจี้ขึ้นมาตรงกลางแล้วไหลออกขวาให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ แตะเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วแปเล่นทางผ่านมือ นิค โป๊ป เข้าเสาไกล
ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 นิวคาสเซิ่ล นำ 2-1 ติโน่ ลิฟราเมนโต้ กระชากมาทางซ้ายแล้วเปิดทะลุไปเสาไกลให้ เจค็อบ เมอร์ฟี่ ตามไปหักกลับมาตรงกลาง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ชาร์จเผาขนไม่เหลือ
แมนยู เจอข่าวร้ายเพิ่มเมื่อ โยชัว เซิร์คซี มีอาการกระตุกที่กล้ามเนื้อ ต้องเปลี่ยนออกเอา ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงแทนในนาทีที่ 55
สาลิกาดง หนีห่าง 3-1 ในสิบนาทีให้หลัง จากความผิดพลาดของ นุสแซร์ มาซราวี ที่ไปครองบอลแล้วดันลื่น ถูก ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ฉกไปพร้อมแหวกกลุ่มแนวรับทีเยือนไปยิงในเขตโทษเข้าไป
ไม่แค่นั้น นาทีที่ 77 นิวคาสเซิ่ล ทิ้งเป็น 4-1 บายินดีร์ เปิดบอลพลาดติด โชลินตอน ก่อนลูกเข้าทาง บรูโน่ กิมาไรส์ ยิงง่ายๆ ไม่พลาด
จบเกม นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 4-1 ทำให้ สาลิกาดง แซงหน้า แมนฯ ซิตี้ ขึ้นรั้งอันดับ 4 ขณะที่ ผีแดง หล่นไปรั้งอันดับ 14
ความพ่ายแพ้ยังทำให้ แมนยู ทำสถิติเลวร้ายที่สุดสำหรับการเล่น พรีเมียร์ลีก ตลอดกว่า 30 ปี เมื่อหลังจากผ่าน 32 นัด เพิ่งมีแค่ 38 แต้ม, รั้งอันดับ 14 และแพ้แล้วถึง 14 นัด
ด้าน เชลซี เล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเองแต่โดนทีมอันดับ 18 อิปสวิช ทาวน์ บุกมานำ 2-0 จาก ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ น.19 และ เบน จอห์นสัน น.31 แต่ครึ่งหลังยังฮึดขึ้น ตามตีเสมอ 2-2 จาก อักเซล ตวนเซเบ้ (ยิงตัวเอง) น.46 และ เจดอน ซานโช่ น.79
1 แต้มที่ได้ทำให้ เชลซี ยืนอันดับ 6 ของตาราง ตามหลัง ฟอเรสต์, นิวคาสเซิ่ล และ แมนฯ ซิตี้ ทีมละ 3-2-1 คะแนน ตามลำดับ
ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ แพ้ตามเคย ออกไปโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ยิงไม่ยั้ง 4-2 โดยสาดกระสุนกันสนุก รายัน เอต-นูรี่ ยิงนำ น.2 ก่อน เชด สเปนซ์ ยิงตัวเอง น.38, มาติส แตล ตีไข่แตก น.59, เจ้าบ้านหนี 3-1 จาก ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น น.64, ริชาร์ลิซอน ไล่มา น.85 ปิดท้าย มาเตอุส คุนญ่า ปิดเกม 4-2 น.86 เท่ากับ วูล์ฟส์ ชนะ 4 เกมซ้อน อันดับขยับขึ้นที่ 16 ด้วยแต้มเท่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้าน สเปอร์ส จมที่ 15
ผลจากคู่หลังสุดนี้ ยังทำให้ทั้ง อิปสวิช ทาวน์ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ใกล้เข้าไปมากขึ้นอีกสำหรับการ ตกชั้น จาก พรีเมียร์ลีก อย่างเป็นทางการ โดยในขณะที่เกมการแข่งขันเหลือเพียง 6 นัดสุดท้าย อิปสวิช ตามหลังโซนปลอดภัยไปแล้ว 14 แต้ม เช่นเดียวกับที่ เลสเตอร์ ในฐานะรองบ๊วย ตามหลังแล้วถึง 17 คะแนน
ติดตามการแข่งขัน ฟุตบอลวันนี้ วิเคราะห์สถานการณ์ พรีเมียร์ลีก และเปลี่ยนการวิเคราะห์การแข่งขันที่แม่นยำของคุณ ให้กลายเป็นรายได้จริงกับ 12BET! เรียนรู้เพิ่มเติม >> 12BET.com