ลิเวอร์พูล เบียด 1-0 ส่ง เลสเตอร์ ตกชั้น, แมนยู คาบ้านตามเคย 0-1

ลิเวอร์พูล เบียด 1-0 ส่ง เลสเตอร์ ตกชั้น – ผลบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ 20 เม.ย. ลิเวอร์พูล ยิงน้อยแต่ยิงนะ บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเองจ่อคว้าแชมป์ 99.99% แล้ว ยังส่ง เลสเตอร์ ตกชั้นอย่างเป็นทางการ

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ซึ่งลงเล่นเป็นคู่ดึกสุดของวัน เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล ในสถานการณ์แตกต่างกันสุดขั้ว เจ้าถิ่นกำลังจะตกชั้น และทีมเยือนกำลังจะเป็นแชมป์

เกมเริ่มเล่นมาได้แค่ 3 นาที ลิเวอร์พูล เกือบออกนำ หลุยส์ ดิอาซ จ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หลุดเข้าล่อเป้าในเขตโทษด้านขวา แต่ดันยิงไปชนเสาไกลเด้งมาชนอีกเสา ก่อนจะถูกสกัดทิ้งไป

เลสเตอร์ เกือบออกนำบ้างเหมือนกันในนาทีที่ 10 สเตฟี่ มาวิดิดี้ ลากมาทางซ้ายแล้วบอลทะลักมาเข้าทาง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ยิงไม่จับไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาทีเดียวต่อมา เป็นโอกาสทองของ หงส์แดง อีกครั้ง โคดี้ กัคโป ลากไปสุดเส้นหลังด้านซ้ายแล้วครอสมาเสาไกลให้ ซาลาห์ เบี่ยงตัวยิงด้วยซ้าย ติดซูเปอร์เซฟของ แมดส์ เฮอร์มันเซ่น

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกยังเป็นโอกาสของทีมเยือน โซบอสซ์ไล โหม่งตั้งมาให้ หลุยส์ ดิอาซ พักอกหันหลังให้ปากประตูแล้วตวัดยิงกลับหลัง บอลไม่ตรงกรอบ

ครึ่งหลัง นาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล ได้โอกาสจากลูกยิงไกลของ โซบอสซ์ไล แต่ เฮอร์มันเซ่น ก็ยังปัดออกหลัง

ตามด้วยนาทีที่ 57 ดิอาซ ลุยเข้าไปแล้วโดนสกัดไปเข้าเหลี่ยม คอสตาส ซิมิคาส ได้สอดเข้าไปยิงด้วยซ้าย ติดเซฟ เฮอร์มันเซ่น เหมือนเดิม

กระนั้นในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็มาออกนำ 1-0 ในนาที 76 จากลูกเตะมุม ซาลาห์ โหม่งไปชนเสาเด้งมาเข้าทาง โชต้า ซ้ำก็ชนคาน สุดท้ายลูกกระดอนเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วอลเลย์สวนเข้าประตูไป

เลสเตอร์ เกือบตีเสมอได้เหมือนกันในนาทีที่ 83 มาวิดิดี้ ลากเลื้อยมาทางซ้ายก่อนดีดเข้ากลางให้ ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้ ตวัดยิงตามน้ำหลุดเสาไกลนิดเดียว

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ 1-0 ผลทำให้ ลิเวอร์พูล  จ่อคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยสองแบบ 99.99% เมื่อต้องการชัยชนะเพิ่มอีกแค่นัดเดียวเท่านั้น จาก 5 เกมสุดท้ายที่เหลือ

เวลาเดียวกัน เลสเตอร์ ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้ว จากการเป็นอันดับ 19 เพิ่งมีแค่ 18 แต้มจาก 33 นัด ตามหลังโซนปลอดภัย 18 คะแนน

ผลบอล พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ อีกหนึ่งคู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โยนเกมลีกทิ้งอย่างเห็นได้ชัด ส่งสำรองลงไปแพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส คาบ้าน 0-1 จนมีแววจะจบซีซั่นในเพียงอันดับ 13-14-15 เท่านั้น

รูเบน อโมริม ปรับทัพอื้อหลังผ่านเกมหนักกับ โอลิมปิก ลียง แบบดวลกัน 120 นาทีมาใน ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก โดย 11 คนแรกมี อองเดร โอนาน่า – นุสแซร์ มาซราวี, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, ไทเลอร์ เฟรดริคสัน – แพทริค ดอร์กู, มานูเอล อูการ์เต้, คริสเตียน เอริคเซ่น, แฮร์รี่ อามาสส์ – อเลฮานโดร การ์นาโช่, ค็อบบี้ เมนู และ ราสมุส ฮอยลุนด์

เกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วงครึ่งแรก ทั้งสองทีมแทบไม่ออกอาวุธเข้าใส่กัน โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เล่นอย่างหนืดเนือย มีเพียงฟรีคิกของ คริสเตียน เอริคเซ่น ในนาที 34 ที่ปั่นโค้งไปให้ แดเนียล เบนท์ลี่ย์ ปัดข้ามคาน

ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังคงเล่นแบบขาดความมั่นใจชัดเจน จากจังหวะเข้าชาร์จลูกผ่านของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ไม่ถึง จนถือสถิติทำไปเพียงประตูเดียวจาก 28 เกมหลัง

แมนยู พลาดโอกาสงามๆ ในนาที 73 อเลฮานโดร การ์นาโช่ จ่ายเรียดตัดหลังไปให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่ยืนโล่งๆ ยิงผิดทิศหลุดกรอบไปเอง

จนมาถึงนาที 77 ทีมเยือนเจาะ 1-0 มาเตอุส คุนญ่า เรียกฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น ปาโบล ซาราเบีย ที่เพิ่งลงสำรองมา 3 นาที ปั่นโค้งข้ามกำแพงเสียบมุมเข้าไป หมดสิทธิ์เซฟสำหรับ อองเดร โอนาน่า

นาที 86 เจ้าบ้านพลาดตีเสมออีก คริสเตียน เอริคเซ่น ดีดไซด์ก้อยเข้ากลางไปให้ เมสัน เมาท์ พุ่งเข้าชาร์จหลุดไปแบบไร้ทิศทาง

จบเกม แมนยู แพ้คาบ้านอีกนัด และเป็นการแพ้นัดที่ 15 แล้วของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ โอกาสจบซีซั่นไม่เกินที่ 13 มีสูง ด้าน วูล์ฟส์ รอดตายอย่างเป็นทางการ พร้อมขยับอันดับขึ้นที่ 15 ด้วยแต้มที่เท่ากับอันดับ 14 อย่าง ปีศาจแดง

ขณะเดียวกัน อาร์เซน่อล บุกยิงอีกหนึ่งว่าที่ทีมตกชั้น อิปสวิช ทาวน์ 4-0 ด้วยประตูของ เลอันโดร ทรอสซาร์ น.14, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.28, ทรอสซาร์ ลูกสอง น.69 และ อีธาน วาเนรี่ น.88 โดยเจ้าถิ่นเหลือ 10 คนตั้งแต่นาที 32 เมื่อ ลีฟ เดวิส โดนใบแดงจากจังหวะย่ำข้อเท้า บูกาโย่ ซาก้า

นอกจากนั้น เชลซี หวิดเจ๊งอีกเกม ออกไปโดน ฟูแล่ม เจาะประตูนำ 1-0 จาก อเล็กซ์ อิโวบี้ ตั้งแต่นาที 20 แต่ยังเร่งเครื่องขึ้นช่วงท้าย ตีเสมอจาก ไทริค จอร์จ น.83 และได้ประตูแซงเข้าวิน น.90+3 จาก เปโดร เนโต้

ผลทั้ง 2 คู่หลังทำให้ อาร์เซน่อล เกือบๆ จะการันตีจบอันดับ 2 และทาง เชลซี ยืนอันดับ 5 ด้วยมี 57 แต้ม ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล 2 คะแนน, แมนฯ ซิตี้ 1 คะแนน และแต้มเท่ากับทั้ง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (อันดับ 6) และ แอสตัน วิลล่า (อันดับ 7)

อีกทั้งยังทำให้การลุ้นตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 โควต้า ดูจะจำกัดวงแคบลงเหลือแค่ไม่เกินทีมอันดับ 7 เท่านั้น จากการที่ แอสตัน วิลล่า ทิ้งระยะเหนือ บอร์นมัธ อยู่ถึง 8 คะแนนด้วยกัน